โรคอัมพฤกษ์และโรคอัมพาต คือภาวะที่สมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงสมอง ส่งผลให้ผู้ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์หรืออัมพาต จะเกิดความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ ทำให้แขน ขาและอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่มีแรง เคลื่อนไหวไม่ได้ หรือในบางรายก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งสถิติในปี 2557 พบว่าโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตนั้น เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆและเป็นโรคที่สามารถเกิดได้ทั้งกับเพศหญิงและเพศชาย ถึงแม้สาเหตุของโรคอัมพฤกษ์และอัมพาตจะเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างทางอาการของโรค ดังนี้
โรคอัมพฤกษ์
โรคอัมพฤกษ์คือไม่สามารถเคลื่อนไหวส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายได้ เช่น แขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งไม่มีแรง ซีกซ้ายหรือซีกขวาทั้งซีกขยับไม่ได้ ในบางรายอาจจะเพียงแค่อ่อนแรงและอาจมีอาการชาร่วมด้วย ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถใช้งานกล้ามเนื้อบางส่วนได้อย่างเต็มที่
โรคอัมพาต
ผู้ป่วยจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อของอวัยวะส่วนต่างๆในร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ซึ่งในผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็นโรคอัมพาต มักจะกลายเป็นผู้ป่วยที่นอนติดเตียง จนเกิดเป็นแผลกดทับในที่สุด ซึ่งเมื่อเป็นแผลกดทับ เราก็ย่อมที่ต้องจะต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะถ้าหากเมื่อไหร่ที่แผลกดทับนั้นเกิดติดเชื้อขึ้นมา เป็นเรื่องใหญ่แน่นอน
นอกจากอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงของโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตนั้น ยังมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น พูดไม่ชัด เวียนศีรษะ เห็นภาพซ้อน มองอะไรไม่ชัดหรือมองไม่เห็นเลย ไม่สามารถทรงตัวได้
โรคอัมพฤกษ์ อัมพาตนั้นสามารถฟื้นฟูสุขภาพได้ด้วยการกายภาพบำบัด วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ทำให้ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง เพราะถ้าหากไม่ทำการกายภาพบำบัด กล้ามเนื้อในส่วนต่างๆของร่างกายของผู้ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ก็จะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ แต่ถ้าหากเราทำกายภาพบำบัดอยู่เสมอ ในผู้ป่วยบางรายก็มีโอกาสที่จะหายได้ เพียงแต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควร ซึ่งผู้ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตแต่ละคน ก็ใช้ระยะเวลาและวิธีการในการรักษาที่แตกต่างกันออกไปตามอาการ
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตนั้น จะมีสภาพจิตใจที่ค่อนข้างจะ เปราะบาง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาต เพราะเขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ลองคิดดูว่าจากที่เคยเดินไปไหนมาไหนได้ เคยได้วิ่ง ได้ขับรถ แต่วันหนึ่งจะต้องมานอนติดเตียง สภาพจิตใจเป็นไปในทางลบ ก็มักจะมีความคิดว่าตัวเองเป็นภาระและไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ญาติๆควรให้ความดูแลอย่างใกล้ชิด ในบางคนที่มีการอาการข้างต้นและกลัวว่าตัวเองจะเสี่ยงเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตก็สามารถป้องกันความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ตาม…..(แนบบทความแพรว)